อะโวกาโด
(Persea Americana Mill.) เป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาแถบเม็กซิโก
กัวเตมาลา และหมู่เกาะเวสอินดีส อะโวกาโดเป็นไม้ผลยืนต้นที่ใช้ผลรับประทานกันมานานในอเมริกาและยุโรป
เนื่องจากมีคุณค่าทางอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์
อะโวกาโดมีไวตามินที่สำคัญต่อร่างกายมนุษย์สูงกว่าผลไม้อื่นๆ
คือ ไวตามินอีช่วยบำรุงผิวให้สวยงามม่แก่เร็วและไม่เป็นหมัน ไวตามินซีช่วยป้องกันหวัดและเลือดออกตามไรฟัน
ไวตามินเอ (เบต้าแคโรทีน) ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนั้นยังมีโปรตีนสูงกว่าผลไม้สดอื่นๆ
ให้ค่าพลังงานความร้อนต่อร่างกายสูงแต่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ ในไขมันของอะโวกาโดเป็นพวกโมโนอันแซทตูเรทเทต
โอลีอิคแอซิด ซึ่งเป็นประโยชน์ในการลดกรดไขมันในเส้นเลือด คนที่เป็นกรคในมันในเลือดสูงก็บริโภคผลไม้ชนิดนี้ได้และใช้ลดน้ำหนักได้ดี
เพราะปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ พลเมืองประเทศไทยสมัยก่อนใช้กล้วยเป็นอาหารเลี้ยงทารก
อะโวกาโดก็เช่นกันสามารถใช้เป็นอาหารเลี้ยงทารกได้ โดยอาจใช้เนื้ออะโวกาโดสุกป้อนเด็กทารกโดยตรงหรือผสมกับกล้วยน้ำว้าสุกอัตราส่วน
1:1 ,จิ้มน้ำพริกแทนผัก ,ทำสลัด, ทาขนมปังแทนเนย รับประทานกับ น้ำตาลรสหวานมัน
โรยเกลือป่นรสจะเป็นเค็มๆ มันๆ

โครงการหลวงได้ส่งเสริมให้เกษตรกรในโครงการปลูกอะโวกาโด
ในพื้นที่อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ และดอยอื่นๆ ในโครงการ เพื่อรักษาต้นน้ำลำธาร
เพื่อเป็นอาหารและจำหน่ายเป็นรายได้ เกษตรกรชาวเขาจะได้ไม่อพยพเคลื่อนย้ายไปตัดไม้ทำลายป่าอีก
ปัจจุบันโครงการหลวงมีพื้นที่ปลูกอะโวกาโดประมาณ 252 ไร่ ผลผลิต 45,000
กิโลกรัม และตามแผนการผลิตพ.ศ. 2542-2547 จะมีต้นอะโวกาโดในพื้นที่ของโครงการหลวง
1,600 ไร่ ซึ่งจะมีผลผลิตประมาณ 1,500 ตัน ในปีพ.ศ. 2548

ท่านทั้งหลายจะมีส่วนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกอะโวกาโด
ถ้าช่วยกันซื้อผลผลิตมาบริโภคและท่านก็จะมีสุขภาพและพลานามัยแข็งแรงด้วย
ถ้านำมาเลี้ยงทารก เด็กก็จะเจริญเติบโตและสมบูรณ์แข็งแรง เช่นเดียวกับเลี้ยงด้วยกล้วยเหมือนคนรุ่นก่อนๆ
การวิเคราะห์คุณค่าทางอาหารเมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้อื่นดังตาราง

พันธุ์อะโวกาโดที่ปลูกเป็นการค้าและอุตสาหกรรม
ผลจากการศึกษาอะโวกาโดที่ปลูกในพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงและแปลงเกษตรกร
พบว่าพันธุ์ อะโวกาโดที่มีความเหมาะสมในการปลูกเพื่อการค้าและอุตสาหกรรม
มีดังนี้
บูช 7 (Booth-7)
ผลค่อนข้างกลม
ผลขนาดกลางน้ำหนักประมาณ 300-500 กรัม ผิวผลขรุขระ สีเขียว เปลือกหนา
เนื้อสีเหลืองอ่อน รสดี เมล็ดขนาดกลาง ติดอยู่ในช่องเมล็ดแน่น มีไขมัน
7-14 เปอร์เซ็นต์ ช่วงเก็บเกี่ยวผลประมาณ วันที่ 15 ตุลาคม ถึง 15
ธันวาคม
พันธุ์แฮสส์
(Hass)
ผลรูปไข่
ผิวขรุขระมาก ผิวสีเขียวเข้ม เมื่อสุกอาจเป็นสีเขียวหรือม่วงเข้ม ผลมีขนาดเล็กน้ำหนักประมาณ
200-300 กรัม เนื้อสีเหลือง เมล็ดเล็กถึงขนาดกลาง ช่วงเก็บเกี่ยวผลเดือนธันวาคม-
กุมภาพันธ์
มีไขมัน 20 เปอร์เซ็นต์
บัคคาเนียร์
(Buccanear)
ผลรูปไข่
เมล็ดเล็ก น้ำหนักผล 250-300 กรัม สุกผิวสีเขียว เนื้อเหลืองอมเขียว
รสดี ผลแก่เก็บเกี่ยวเดือนตุลาคม-ธันวาคม มีไขมัน 12 เปอร์เซ็นต์
ปากช่อง 2-8
ผลรูปหลอดไฟ
มีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักประมาณ 500 กรัม ผลมีสีเขียวผิวขรุขระ เมื่อสุกมีผิวสีเขียว
เนื้อสีเหลือง ผลแก่เก็บเกี่ยวเดือนตุลาคม-มกราคม มีไขมัน 14 เปอร์เซ็นต์
คุณสมบัติของอะโวกาโดพันธุ์ที่คัดเลือกไว้เพื่อการค้าและอุตสาหกรรม
ลักษณะต่างๆ
ของอะโวกาโดพันธุ์ที่คัดเลือกเพื่อการค้าและอุตสาหกรรม
|