อะโวกาโดเพื่อการค้าและอุตสาหกรรม
Selection Avocado Cultivars for Trade and Industrial
 
ฉลองชัย แบบประเสริฐ
ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
โทร. 0-2579-0308

          อะโวกาโด (Persea Americana Mill.) เป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาแถบเม็กซิโก กัวเตมาลา และหมู่เกาะเวสอินดีส อะโวกาโดเป็นไม้ผลยืนต้นที่ใช้ผลรับประทานกันมานานในอเมริกาและยุโรป เนื่องจากมีคุณค่าทางอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์

          อะโวกาโดมีไวตามินที่สำคัญต่อร่างกายมนุษย์สูงกว่าผลไม้อื่นๆ คือ ไวตามินอีช่วยบำรุงผิวให้สวยงามม่แก่เร็วและไม่เป็นหมัน ไวตามินซีช่วยป้องกันหวัดและเลือดออกตามไรฟัน ไวตามินเอ (เบต้าแคโรทีน) ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนั้นยังมีโปรตีนสูงกว่าผลไม้สดอื่นๆ ให้ค่าพลังงานความร้อนต่อร่างกายสูงแต่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ ในไขมันของอะโวกาโดเป็นพวกโมโนอันแซทตูเรทเทต โอลีอิคแอซิด ซึ่งเป็นประโยชน์ในการลดกรดไขมันในเส้นเลือด คนที่เป็นกรคในมันในเลือดสูงก็บริโภคผลไม้ชนิดนี้ได้และใช้ลดน้ำหนักได้ดี เพราะปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ พลเมืองประเทศไทยสมัยก่อนใช้กล้วยเป็นอาหารเลี้ยงทารก อะโวกาโดก็เช่นกันสามารถใช้เป็นอาหารเลี้ยงทารกได้ โดยอาจใช้เนื้ออะโวกาโดสุกป้อนเด็กทารกโดยตรงหรือผสมกับกล้วยน้ำว้าสุกอัตราส่วน 1:1 ,จิ้มน้ำพริกแทนผัก ,ทำสลัด, ทาขนมปังแทนเนย รับประทานกับ น้ำตาลรสหวานมัน โรยเกลือป่นรสจะเป็นเค็มๆ มันๆ

          โครงการหลวงได้ส่งเสริมให้เกษตรกรในโครงการปลูกอะโวกาโด ในพื้นที่อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ และดอยอื่นๆ ในโครงการ เพื่อรักษาต้นน้ำลำธาร เพื่อเป็นอาหารและจำหน่ายเป็นรายได้ เกษตรกรชาวเขาจะได้ไม่อพยพเคลื่อนย้ายไปตัดไม้ทำลายป่าอีก ปัจจุบันโครงการหลวงมีพื้นที่ปลูกอะโวกาโดประมาณ 252 ไร่ ผลผลิต 45,000 กิโลกรัม และตามแผนการผลิตพ.ศ. 2542-2547 จะมีต้นอะโวกาโดในพื้นที่ของโครงการหลวง 1,600 ไร่ ซึ่งจะมีผลผลิตประมาณ 1,500 ตัน ในปีพ.ศ. 2548

          ท่านทั้งหลายจะมีส่วนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกอะโวกาโด ถ้าช่วยกันซื้อผลผลิตมาบริโภคและท่านก็จะมีสุขภาพและพลานามัยแข็งแรงด้วย ถ้านำมาเลี้ยงทารก เด็กก็จะเจริญเติบโตและสมบูรณ์แข็งแรง เช่นเดียวกับเลี้ยงด้วยกล้วยเหมือนคนรุ่นก่อนๆ

การวิเคราะห์คุณค่าทางอาหารเมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้อื่นดังตาราง

พันธุ์อะโวกาโดที่ปลูกเป็นการค้าและอุตสาหกรรม

          ผลจากการศึกษาอะโวกาโดที่ปลูกในพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงและแปลงเกษตรกร พบว่าพันธุ์ อะโวกาโดที่มีความเหมาะสมในการปลูกเพื่อการค้าและอุตสาหกรรม มีดังนี้

บูช 7 (Booth-7)

          ผลค่อนข้างกลม ผลขนาดกลางน้ำหนักประมาณ 300-500 กรัม ผิวผลขรุขระ สีเขียว เปลือกหนา เนื้อสีเหลืองอ่อน รสดี เมล็ดขนาดกลาง ติดอยู่ในช่องเมล็ดแน่น มีไขมัน 7-14 เปอร์เซ็นต์ ช่วงเก็บเกี่ยวผลประมาณ วันที่ 15 ตุลาคม ถึง 15 ธันวาคม

พันธุ์แฮสส์ (Hass)

          ผลรูปไข่ ผิวขรุขระมาก ผิวสีเขียวเข้ม เมื่อสุกอาจเป็นสีเขียวหรือม่วงเข้ม ผลมีขนาดเล็กน้ำหนักประมาณ 200-300 กรัม เนื้อสีเหลือง เมล็ดเล็กถึงขนาดกลาง ช่วงเก็บเกี่ยวผลเดือนธันวาคม- กุมภาพันธ์
มีไขมัน 20 เปอร์เซ็นต์

บัคคาเนียร์ (Buccanear)

          ผลรูปไข่ เมล็ดเล็ก น้ำหนักผล 250-300 กรัม สุกผิวสีเขียว เนื้อเหลืองอมเขียว รสดี ผลแก่เก็บเกี่ยวเดือนตุลาคม-ธันวาคม มีไขมัน 12 เปอร์เซ็นต์

ปากช่อง 2-8

          ผลรูปหลอดไฟ มีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักประมาณ 500 กรัม ผลมีสีเขียวผิวขรุขระ เมื่อสุกมีผิวสีเขียว เนื้อสีเหลือง ผลแก่เก็บเกี่ยวเดือนตุลาคม-มกราคม มีไขมัน 14 เปอร์เซ็นต์

คุณสมบัติของอะโวกาโดพันธุ์ที่คัดเลือกไว้เพื่อการค้าและอุตสาหกรรม

ลักษณะต่างๆ ของอะโวกาโดพันธุ์ที่คัดเลือกเพื่อการค้าและอุตสาหกรรม