ปัจจุบันสภาพบ้านที่ปลูกสร้างในเขตกรุงเทพมหานคร หรือเขตเมือง เช่น หมู่บ้านจัดสรรต่าง ๆ มีพื้นที่
บริเวณของบ้านค่อนข้างจำกัด สำหรับเจ้าของบ้านที่ชื่นชอบการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้หรือไม้ประดับ มักประสบปัญหาอยู่เสมอ คือไม้ประดับที่ปลูกเลี้ยงนั้น ไม่ออกดอกหรือไม่เจริญเติบโตตามที่ควรจะเป็น เนื่องด้วยสาเหตุหลาย ๆ ประการ คือได้รับแสงมากหรือน้อยเกินไป ความชื้นหรือน้ำที่พืชได้รับมากหรือน้อยเกินไป ตำแหน่งที่
ปลูกเลี้ยงอยู่ในจุดที่อับชื้น อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ทำให้ต้นไม้อ่อนแอ เกิดโรคได้ง่าย ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้ไม้ประดับที่ปลูกเลี้ยงไม่ประสบผลสำเร็จ การสร้างโรงเรือนปลูกเลี้ยงไม้ประดับสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด เป็นวิธีการหนึ่งที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวนั้นได้ ทั้งนี้การออกแบบโรงเรือนต้นแบบได้คำนึงถึงเหตุผลหลัก ดังนี้

1. วัสดุที่ใช้สร้างโรงเรือนต้องแข็งแรง คงทน ราคาไม่สูงเกินไป
2. โรงเรือนสามารถถอดประกอบได้ง่าย ไม่ซับซ้อน
3. โรงเรือนมีหลังคาโปร่งแสง ป้องกันน้ำฝน และสามารถพลางแสงได้ตามต้องการ มีการติดตั้งระบบให้น้ำภายในโรงเรือน
4. ใช้พื้นที่ภายในโรงเรือนทุกส่วนให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยออกแบบให้มีชั้นแขวน หรือวาง กระถางไม้ประดับหลายชั้น และโปร่ง ถ่ายเทอากาศได้ดี

          การออกแบบโรงเรือน สามารถปรับขนาดกว้างยาวตามสภาพพื้นที่ที่มี ทั้งนี้ตำแหน่งที่ตั้งโรงเรือน ควรคำนึงถึงเรื่องแสงแดดเป็นหลัก คือควรอยู่ในตำแหน่งที่ได้รับแสงเพียงพอ สำหรับไม้ประดับที่ปลูกแต่ละชนิด

          สำหรับโรงเรือนต้นแบบ มีขนาด 2x3 ตารางเมตร ประกอบด้วยชั้นแขวนกระถางกล้วยไม้ 1 ชั้น
ชั้นวางกระถางไม้ประดับ 2 ชั้น ติดตั้งระบบน้ำแบบพ่นละอองน้ำ หลังคาป้องกันฝนใช้พลาสติกป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเลต มีซาแลนพลางแสง 50 เปอร์เซ็นต์ โดยติดตั้งเหนือหลังคาพลาสติกเพื่อช่วยพลางแสงและระบายความร้อนที่จะตกกระทบหลังคา และวัสดุที่ทำโครงสร้าง คือเหล็กกัลวาไนซ์ ขนาดต่าง ๆ ต้นทุนการก่อสร้างทั้งหมด โดยคิดค่าแรงและค่าวัสดุ มีต้นทุนประมาณ 1,000 บาท ต่อตารางเมตร