ฟลาวจากมันสำปะหลังพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 ในระดับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก
Cassava Flour from Kasetsart 50 in SMEs Industry
 
วิชัย หฤทัยธนาสันติ์ 1,2 ธงชัย สุวรรณสิชณน์ 2 กล้าณรงค์ ศรีรอต 1,5
เพ็ญขวัญ ชมปรีดา 2 วิจารณ์ วิชชุกิจ 3 ประภาส ช่างเหล็ก 4
เกื้อกูล ปิยะจอมขวัญ 5 กุลฤดี แสงสีทอง 5และ สุนีย์ โชตินีรนาท 5

1สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร
2ภาควิชาพัฒนาผลิตภัณฑ์    คณะอุตสาหกรรมเกษตร
3ภาควิชาพืชไร่นา    คณะเกษตร
4สถาบันค้นคว้าและพัฒนาระบบนิเวศเกษตร
5หน่วยปฏิบัติการเทคโนโลยีการแปรรูปมันสำปะหลังและแป้ง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

โทร. 0-2579-5580

    มันสำปะหลังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ซึ่งมันสำปะหลังที่ปลูกสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ ชนิดหวานและชนิดขม มันสำปะหลังชนิดหวานจะมีปริมาณการผลิตน้อย ใช้เพื่อการบริโภคโดยตรง ในขณะที่มันสำปะหลังส่วนใหญ่ที่นิยมปลูกในประเทศไทย เป็นมันสำปะหลังชนิดขมเพราะเป็นชนิดที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้เกือบทุกพื้นที่ มีปริมาณผลผลิตต่อไร่สูง โดยพันธุ์ที่เกษตรกรนิยมปลูกพันธุ์หนึ่ง ได้แก่ พันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 (KU 50)

    มันสำปะหลังชนิดขมนิยมใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมการผลิตมันเส้น มันอัดเม็ดและแป้งมันสำปะหลัง เนื่องจากมันสำปะหลังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญและมีการปลูกกันมากภายในประเทศ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการพัฒนาการแปรรูปที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับมันสำปะหลังในอุตสาหกรรมขนาดเล็กและกลาง เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชน ผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพชนิดหนึ่ง ได้แก่ ฟลาวมันสำปะหลัง
    ฟลาวมันสำปะหลังเป็นสิ่งที่ได้จากการนำเนื้อมันสำปะหลังมาอบแห้ง มีลักษณะเป็นผงสีขาวนวล มีปริมาณเส้นใยและโปรตีนสูงกว่าแป้งมันสำปะหลัง การผลิตฟลาวมันสำปะหลังได้มีการผลิตกันในหลายประเทศ เช่น ประเทศในแถบแอฟริกา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น โดยประเทศผู้ผลิตเหล่านี้จะบริโภคฟลาวมันสำปะหลังเป็นอาหารหลัก โดยมีกรรมวิธีเริ่มจากปอกเปลือก ล้างน้ำ คั้นน้ำออก นำเนื้อมันสำปะหลังที่ได้มาตากแดดให้แห้งหลังจากนั้นนำมาบดละเอียดได้ฟลาวมันสำปะหลัง ทั้งนี้ฟลาวที่ได้จะต้องมีความสะอาดและปลอดภัยต่อการบริโภค
    สำหรับในประเทศไทยนั้น ปัจจุบันได้เริ่มมีการแปรรูปมันสำปะหลังเป็นฟลาวแล้วในอุตสาหกรรมขนาดเล็ก โดยใช้มันสำปะหลังชนิดหวานเป็นวัตถุดิบ ซึ่งการผลิตยังมีข้อจำกัด ทั้งนี้เนื่องจากมันสำปะหลังชนิดหวานมีกำลังการผลิตที่น้อย ผลผลิตส่วนใหญ่ใช้ในครัวเรือนเพื่อการบริโภคโดยตรงทำให้วัตถุดิบมีราคาสูง
    คณะผู้วิจัยจึงได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตฟลาวจากมันสำปะหลังชนิดขม โดยใช้พันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 เป็นต้นแบบในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมขนาดเล็ก มีการใช้เทคโนโลยีที่ง่าย ไม่ซับซ้อน และใช้เครื่องมือที่มีราคาไม่สูงที่ผลิตได้ในประเทศ การผลิตฟลาวจากมันสำปะหลังชนิดขมสามารถทำได้ โดยต้องมีการปรับปรุงในขั้นตอนการผลิต เพื่อลดปริมาณไซยาไนด์ลงให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อการบริโภค และต้องพัฒนาการตรวจวัดหาปัจจัยการผลิตที่เหมาะสมทุกขั้นตอน รวมทั้งมีการตรวจวัดปริมาณไซยาไนด์ที่หลงเหลือเพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยต่อการบริโภค
    จากการพัฒนาขั้นตอนการผลิตฟลาวมันสำปะหลังจากพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 ทำให้มีกระบวนการผลิตที่สามารถผลิตฟลาวมันสำปะหลังที่มีคุณภาพดี มีความสะอาดและปลอดภัยต่อการบริโภคตามที่กำหนดไว้ใน Codex Alimentarius ของ FAO/WHO โดยร้อยละผลผลิตที่ได้ไม่ต่ำกว่า 70 ของน้ำหนักหัวแห้ง ฟลาวที่ได้จะมีคุณภาพเทียบต่อน้ำหนักแห้ง ดังนี้ ความชื้นไม่เกินร้อยละ 14 ปริมาณเยื่อใยไม่เกินร้อยละ 5 ปริมาณเถ้าไม่เกินร้อยละ 3 ปริมาณโปรตีนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 1.5 ความขาวมากกว่า 75 (Kett scale ) ปริมาณไซยาไนด์ไม่เกิน 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของน้ำหนักแห้ง

    นอกจากนี้ได้มีการนำฟลาวมันสำปะหลังพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 ไปใช้ในการทดแทนแป้งสาลี ในการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร ประเภทอบและทอด และใช้เป็นส่วนผสมในการทำขนมไทย และอาหารว่างไทยหลายชนิด ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จึงเป็นการพัฒนาการใช้ประโยชน์มันสำปะหลังอย่างครบวงจร