ดินที่ปลูกมันสำปะหลังในประเทศไทยส่วนใหญ่
มีสมบัติโดยทั่วไปคือ เป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติต่ำ อุ้มน้ำและดูดยึดปุ๋ยได้น้อย
และมีความอ่อนไหวต่อการเกิดการชะล้างพังทะลายของดินได้ง่าย จึงทำให้ดินเหล่านี้ไม่เหมาะกับการปลูกพืชไร่เศรษฐกิจอื่น
ๆ สำหรับกลุ่มชุดดินที่ 35 ซึ่งได้แก่ ดินชุดวาริน และดินชุดมาบบอน
กรมพัฒนาที่ดิน ได้รายงานไว้ว่า เป็นกลุ่มชุดดินที่มีลักษณะเป็นดินร่วนทราย
มีการระบายน้ำดี มีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติต่ำ ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง
(pH) ประมาณ 4.5-5.5 และมีการอุ้มน้ำได้ไม่มากนัก กลุ่มชุดดินนี้มีการปลูกมันสำปะหลังมานาน
มีปัญหาสำคัญทางด้านสมบัติทางกายภาพที่พบคือ ผิวหน้าดินอาจเกิดการแข็งตัวแน่นทึบเวลาเมื่อดินแห้งตัวลงในขณะที่ฝนทิ้งช่วง
และเมื่อฝนตกหรือมีการให้น้ำ น้ำซึมลงใต้ผิวดินได้น้อย วิธีการแก้ไขดินที่มีปัญหาด้านสมบัติทางกายภาพคือแนะนำให้มีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือสารปรับปรุงดินในรูปสารอนินทรีย์
หรือสารอินทรีย์ชนิดต่าง ๆ ทั้งที่เป็นสารอินทรีย์ธรรมชาติ สารอินทรีย์ที่ได้จากผลพลอยได้ทางการเกษตร
หรือผลพลอยได้จากโรงงานอุตสาหกรรม ควบคู่กับการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งยิปซั่ม
(gypsum) จะมีประโยชน์ในการช่วยลดปัญหาการเกิดแผ่นแข็งบนผิวดิน และช่วยทำให้ดินมีการแทรกซึมน้ำดีขึ้น
ดังนั้นจึงศึกษาผลของการใช้ยิบซั่ม ปุ๋ยอินทรีย์ (มูลไก่) และปุ๋ยเคมี
เพื่อปรับปรุงดินให้มีสมบัติทางกายภาพและทางเคมีที่เหมาะสมในการให้ผลผลิตหัวสดและปริมาณแป้งในหัวสดของมันสำปะหลัง
โดยวางแผนการทดลองแบบ Split-plot in RCB มี 4 ซ้ำ ปัจจัยหลัก (main
plot) ได้แก่ พันธุ์มันสำปะหลัง ซึ่งในดินชุดวารินใช้มันสำปะหลังพันธุ์ห้วยบง
60 และพันธุ์ระยอง 72 ปลูกในแปลงทดลองของศูนย์วิจัยและพัฒนามันสำปะหลัง
ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ในเดือน มิถุนายน 2545 และในดินชุดมาบบอน
ใช้มันสำปะหลังพันธุ์ห้วยบง 60 และพันธุ์ระยอง 5 ปลูกในแปลงทดลองของสถานีวิจัยเขาหินซ้อน
ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ในเดือนกรกฎาคม 2545 ส่วนปัจจัยรอง
(sub-plot) ได้แก่ ตำรับทดลอง 14 ตำรับ ได้แก่ การไม่ใส่ปุ๋ยมูลไก่
ยิบซั่ม และปุ๋ยเคมี และการใส่ปุ๋ยมูลไก่ (อัตรา 1 ตันต่อไร่) หรือปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว
(สูตร 15-15-15 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่) การใส่ปุ๋ยมูลไก่ร่วมกับปุ๋ยเคมี
การใส่ยิบซั่ม 5 อัตรา (50 100 150 250 และ 500 กิโลกรัมต่อไร่) ร่วมกับปุ๋ยเคมี
และการใส่ปุ๋ยมูลไก่ ร่วมกับยิบซั่ม 5 อัตรา และปุ๋ยเคมี ขุดเก็บเกี่ยวเมื่อมันสำปะหลังอายุครบ
12 เดือน ผลการทดลองพบว่า ในดินชุดวาริน การใส่ปุ๋ยมูลไก่ ยิบซั่มที่อัตราต่าง
ๆ และปุ๋ยเคมี ไม่มีผลทำให้ผลผลิตหัวสด ปริมาณแป้งในหัวสด และน้ำหนักต้นและใบสดของมันสำปะหลังแตกต่างกัน
แต่มีแนวโน้มทำให้ผลผลิตหัวสดเพิ่มขึ้น (ร้อยละ 2 ถึง 17 ของการไม่ใส่ปุ๋ยมูลไก่
ยิบซั่มและปุ๋ยเคมี) ซึ่งการใส่ยิบซั่มอัตรา 500 กิโลกรัมต่อไร่ ร่วมกับปุ๋ยเคมีอัตรา
50 กิโลกรัมต่อไร่ มันสำปะหลังให้ผลผลิตหัวสดสูงสุด 6,471 กิโลกรัมต่อไร่
ส่วนดินชุดมาบบอน การใส่ปุ๋ยมูลไก่ ยิบซั่มที่อัตราต่าง ๆ และปุ๋ยเคมี
มีผลทำให้ผลผลิตหัวสด และน้ำหนักต้นและใบสดเพิ่มขึ้น ร้อยละ 31-74
และ 7-46 ของการไม่ใส่ปุ๋ยมูลไก่ ยิบซั่ม และปุ๋ยเคมี ตามลำดับ ซึ่งการใส่ปุ๋ยมูลไก่
1 ตันต่อไร่ ร่วมกับยิบซั่ม 500 กิโลกรัมต่อไร่ และปุ๋ยเคมี 50 กิโลกรัมต่อไร่
ให้ผลผลิตหัวสดสูงสุด 8,836 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนปริมาณแป้งในหัวสดไม่แตกต่างกัน

|