รายการวิทยุ เรื่อง “การปลูกและเกี่ยวกับมันฝรั่ง “
บทวิทยุ รายการ “ จากแฟ้มงานวิจัย มก.”
ออกอากาศวันเสาร์ ที่ 27 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2557
เรื่อง การปลูกและเกี่ยวกับมันฝรั่ง
บทวิทยุโดย วิทวัส ยุทธโกศา
……………………………………….……………………………………
-เพลงประจำรายการ-
สวัสดีครับ คุณผู้ฟังทุกท่านครับ พบกันอีกครั้งกับรายการ “จากแฟ้มงานวิจัย มก.” ซึ่งออกอากาศเป็นประจำทุกวันเสาร์ ทางสถานีวิทยุ มก. แห่งนี้ครับ รายการนี้ผลิตโดย ฝ่ายเผยแพร่งานวิจัย สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รายการของเราเป็นรายการที่จะนำเสนอเรื่องราวผลงานวิจัยดีๆ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพื่อให้คุณผู้ฟังได้นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันหรือ เพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเอง โดยมีกระผม วิทวัส ยุทธโกศา เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
คุณผู้ฟังครับ ใกล้ช่วงปีใหม่กันแล้วนะครับ เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความสุข เดือนแห่งงานเลี้ยงสังสรรค์ ปีใหม่นี้หลายคนอาจมีแผนไปเที่ยวหรือกลับบ้านเกิดตามภูมิลำเนา เพื่ออยู่กับครอบครัวอันเป็นที่รัก กระผมขออวยพรให้คุณผู้ฟังมีความสุขกายสุขใจในปีหน้าและปีต่อๆไป วันนี้ก็อีกเช่นเคยนะครับ กระผมก็มีผลงานวิจัยที่น่าสนใจมาฝาก เป็นผลงานเรื่อง มันฝรั่ง เป็นพืชเศรษฐกิจที่เราทุกต้องเคยรับประทานกันและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีครับ
มันฝรั่ง เป็นพืชล้มลุกนะครับ อยู่ในตระกูล พริก มะเขือ มะเขือเทศ ยาสูบ ลักษณะลำต้นตรง จะแตกกิ่งก้านมีความสูงอยู่ระหว่าง 50 – 100 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับลักษณะประจำพันธุ์ ลำต้นโดยทั่วไป เมื่อตัดตามขวางจะกลวงและเป็นรูปสามเหลี่ยม ใบเป็นแบบใบประกอบ ซึ่งประกอบด้วย ใบยอด และ ใบย่อย ดอกจะมีสีขาว หรือสีม่วงอ่อนจนถึงม่วงเข้ม ขึ้นอยู่กับพันธุ์ครับ หัวมันฝรั่งจัดเป็นส่วนหนึ่งของลำต้น ทำหน้าที่สะสมอาหารและขยายพันธุ์ ผิวของหัวมันฝรั่งจะมีรูเล็ก ๆ ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการหายใจของหัวและถ่ายเทอากาศ หัวมันฝรั่งจะขยายใหญ่ขึ้นหากปลูกมันฝรั่งในสภาพดินที่ชื้น ซึ่งทำให้หัวมันฝรั่งที่เก็บเกี่ยวจะไม่สวย นอกจากนั้นยังเป็นสาเหตุให้เชื้อโรคเข้าสู่ภายในหัวได้ง่ายด้วยครับ คุณผู้ฟังครับที่หัวมันฝรั่งจะมีตา แต่ละตาจะแตกหน่อและเจริญเติบโตเป็นต้นต่อไป จำนวนของตาต่อหัวขึ้นอยู่กับพันธุ์และสภาพความอุดมสมบูรณ์ของหัว หัวมันฝรั่งเป็นส่วนหนึ่งของลำต้นทำหน้าที่สะสมอาหารและขยายพันธุ์ บางครั้งหัวมันฝรั่งอาจเกิดขึ้นที่จุดต่อระหว่างใบและลำต้นในกรณีที่ใบไม่สามารถส่งอาหารไปเก็บไว้ที่หัวมันฝรั่งได้ เนื่องจากท่ออาหารถูกทำลายซึ่งเกิดขึ้นได้ในระหว่างการพูนโคน การกำจัดวัชพืชหรือถูกเชื้อโรคและแมลงเข้าทำลายในส่วนของลำต้นครับ ช่วงนี้พักกันก่อนสักครู่นะครับ
-เพลงคั่นรายการ-
คุณผู้ฟังครับ มันฝรั่งที่ปลูกในประเทศไทย มีสองประเภทด้วยกันครับ นั่นคือ พันธุ์ที่ใช้บริโภคสดและพันธุ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมแปรรูป ซึ่งได้แก่ พันธุ์สปุนต้า เป็นพันธุ์ของประเทศเนเธอร์แลนด์ เจริญเติบโตเร็วทรงต้นสูง โคนต้นมีสีม่วง ดอกสีขาว ลักษณะหัวยาวใหญ่ ตาตื้น ผิวสีเหลืองเรียบ เนื้อในสีเหลือง พันธุ์นี้เมื่อเก็บไว้นาน ๆ หัวจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแก่เกือบดำ ต้านทานแล้งได้ดีพอสมควร ใช้ในการบริโภคสดได้ครับ
ส่วนพันธุ์เคนนีเบค เป็นพันธุ์จากสหรัฐอเมริกาและมีการผลิตหัวพันธุ์จำหน่ายในหลายประเทศด้วยกัน อย่างเช่น แคนาดา เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย นำเข้ามาปลูกในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2521 โดยบริษัทแปรรูปมันฝรั่ง ใช้เป็นพันธุ์ที่ใช้ในการแปรรูปเท่านั้นครับ
พันธุ์แอตแลนติค เป็นพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดจากสหรัฐอเมริกา มีการผลิตพันธุ์จำหน่ายในหลายประเทศ อายุการเก็บเกี่ยวปานกลาง มีทรงพุ่มหนาใบสีเขียวเข้ม ค่อนข้างใหญ่ รูปร่างหัวกลม ค่อนข้างเล็ก เนื้อมีสีขาวนะครับ คุณภาพในการแปรรูปอยู่ในขั้นดี ปัจจุบันเป็นพันธุ์ที่มีการปลูกมากที่สุดในประเทศไทยครับ
คุณผู้ฟังครับ สภาพการปลูกมีผลมากในการให้ผลผลิตของมันฝรั่ง ประเทศแถบหนาว ผลผลิตจะสูงกว่าประเทศทางแถบร้อน เนื่องจากมีสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ ความยาวของวันที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและการสร้างหัวของมันฝรั่ง
คุณผู้ฟังครับ อุณหภูมิเป็นปัจัยที่สำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของมันฝรั่ง มันฝรั่งจะเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดฤดูปลูกระหว่าง 15 – 18 องศาเซลเซียส ถ้าอุณหภูมิสูงกว่า 21 องศาเซลเซียส ในระยะเริ่มสร้างหัวจะทำให้ผลผลิตลดลง และผลผลิตจะต่ำลงอย่างมาก เมื่ออุณหภูมิสูงถึง 30 องศาเซลเซียส แต่ถ้าอุณหภูมิในช่วงเวลากลางคืนไม่เกิน 20 องศาเซลเซียส จะทำให้ผลผลิตของมันฝรั่งสูงขึ้นแต่ทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องด้วยครับ ช่วงนี้พักกันก่อนสักครู่นะครับ
-เพลงคั่นรายการ-
ในประเทศไทยควรปลูกมันฝรั่งช่วงต้นฤดูหนาว คือ ในเดือนพฤศจิกายนหรือต้นเดือนธันวาคมในบริเวณพื้นที่ราบต่ำของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ระยะการสร้างหัวของมันฝรั่งมีอุณหภูมิพอเหมาะในช่วงกลางฤดูหนาว จะทำให้ได้ผลผลิตสูงกว่าในช่วงอื่น สำหรับนอกฤดูปลูกเกษตรกรจะปลูกมันฝรั่งบนที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 – 1,500 เมตร ซึ่งสามารถปลูกได้เกือบตลอดปี เนื่องจากมีอุณหภูมิต่ำ แต่ควรเลือกช่วงปลูกในระยะที่มีฝนตก เพื่อให้มีน้ำเพียงพอตลอดฤดูปลูก
มันฝรั่งจะเจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีการระบายน้ำได้ดี และดินที่เหมาะสมในการปลูกมันฝรั่ง คือ ดินร่วนหรือดินร่วนปนทรายระดับความเป็นกรด – ด่างของดินที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 5.5 – 6.5 ดินเหนียวไม่เหมาะแก่การปลูกมันฝรั่ง เพราะการถ่ายเทอากาศในดินไม่ดีทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสร้างหัวและการเจริญเติบโตของหัวมันฝรั่ง
การเตรียมดินสำหรับปลูกมันฝรั่งเป็นสิ่งสำคัญ ต้องมีการเตรียมดินให้ดีเนื่องจากมันฝรั่งเป็นพืชหัว ถ้าหากเตรียมดินไม่ดีจะทำให้การลงหัวไม่ดี ผลผลิตที่ได้จะต่ำ การเตรียมดินควรไถดินให้ลึกแล้วตากดินไว้ 1 – 2 สัปดาห์ เพื่อให้ดินแห้งการไถพลิกดินควรไถประมาณ 2 – 3 ครั้ง เมื่อดินแห้งดีแล้วควรทำการพรวนย่อยอีกครั้งหนึ่งหลังจากนั้นทำแปลงปลูกโดยแยกเป็นแปลง ๆ ขนาดกว้าง 1 เมตร แปลงสูง 20 – 30 เซนติเมตร ปลูกได้ 2 แถว การใส่ปุ๋ยคอกลงในดินจะทำให้ดินร่วนซุยและอุ้มน้ำได้ดีขึ้น โดยใส่ลงในแปลงแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันกับดิน ดินควรจะมีความชื้นพอควร ถ้าดินแห้งเกินไปควรมีการให้น้ำ แต่อย่าให้แฉะจนเกินไป
-เพลงคั่นรายการ-
คุณผู้ฟังค่ะ เกษตรกรในเมืองไทยนิยมปลูกมันฝรั่งโดยการผ่าหัวเพื่อประหยัดหัวพันธุ์ เนื่องจากหัวพันธุ์ที่สั่งจากต่างประเทศมีราคาแพงและการใช้หัวพันธุ์ขนาดใหญ่ ปลูกจะทำให้สิ้นเปลืองหัวพันธุ์มาก เช่น ในเนื้อที่ปลูก 1 ไร่ อาจจะใช้หัวพันธุ์ถึงประมาณ 400 กิโลกรัม แต่ถ้าทำการผ่าหัวแล้วจะใช้หัวพันธุ์เพียง 100 – 150 กิโลกรัม เท่านั้น
โดยปกติต้นมันฝรั่งจะงอกขึ้นมาภายหลังการปลูกระหว่าง 10 – 20 วัน เมื่อมันฝรั่งมีลำต้นสูงประมาณ 15 – 30 เซนติเมตร ควรทำการพูนโคนกลบครั้งแรก โดยพูนดินระหว่างแถวยกขึ้นมาเป็นร่อง กลบโคนต้น เพื่อให้หัวที่จะสร้างขึ้นมาใหม่บริเวณโคนต้นเจริญเติบโตอยู่ภายในดิน เพราะถ้าหัวโผล่พ้นดิน และถูกแสงแดดจะทำให้ผิวเป็นสีเขียวและไม่เจริญเติบโต
การพูนโคนครั้งที่สองหลังจากการพูนโคนครั้งแรกประมาณ 15 วัน คือเมื่อต้นอายุได้ประมาณ 30 – 40 วัน ควรพูนดินกลบโคนต้นสูงประมาณ 20 – 25 เซนติเมตรเหนือระดับผิวดิน ควรทำในช่วงระยะที่มันฝรั่งเริ่มสร้างหัวไม่ควรทิ้งไว้นาน เพราะจะกระทบกระเทือนต่อไหลใต้ดิน ทำให้ผลผลิตลดลงได้
การพูนโคนนั้นนอกจากจะช่วยไม่ให้ผิวมันฝรั่งถูกแสงแล้ว ยังช่วยให้ลงหัวได้มาก ถ้าดินแห้งมากควรจะยกร่องก่อน และขุดหลุมปลูกไปบนร่อง และควรปลูกให้ลึกกว่าปกติ ประโยชน์ของการพูนโคนอีกอย่างหนึ่งคือ สามารถให้น้ำแบบร่องได้อีกด้วยครับ
คุณผู้ฟังค่ะ การปลูกมันฝรั่งจำเป็นจะต้องมีการบำรุงดูแลที่ดี เช่น การใส่ปุ๋ย ควรมีการให้ปุ๋ยสูตร 15 – 15 – 15 หรือ 13 – 13 – 21 ในอัตรา 100 – 120 กิโลกรัมต่อไร่ ครั้งแรกจะใส่ในระยะเตรียมดินหรือใส่ในระยะที่ทำการพรวนดิน เพื่อทำการกำจัดวัชพืช และพูนโคนครั้งแรกก็ได้ โดยใส่ตามระหว่างต้นและระหว่างแถว แล้วพูนดินกลบโคนไปในตัวส่วนครั้งที่สอง จะใส่เมื่อมีการพูนโคนครั้งที่ 2 สิ่งที่ควรคำนึงในการใส่ปุ๋ยมันฝรั่งอีกประการหนึ่ง คือ การขาดธาตุแมกนีเซียม ซึ่งเป็นธาตุอาหารที่มีการใส่ในอัตรา 5 – 8 กิโลกรัมต่อไร่ ในการปลูกมันฝรั่งในต่างประเทศ
สิ่งที่ควรคำนึงในการใส่ปุ๋ยมันฝรั่งอีกประการหนึ่ง คือ การขาดธาตุแมกนีเซียม ซึ่งเป็นธาตุอาหารที่มีการใส่ในอัตรา 5 – 8 กิโลกรัม ต่อไร่ ในการปลูกมันฝรั่งในต่างประเทศ
เมื่อจะเริ่มทำการปลูกถ้าดินแห้งเกินไปควรทำการให้น้ำก่อนปลูก 3 – 5 วัน เพื่อให้ดินมีความชื้นเพียงพอที่จะทำการปลูกได้ มันฝรั่งเป็นพืชที่ต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอ ถ้าได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้หัวมันชะงักการเจริญเติบโต การให้น้ำแบบร่องจะทำให้มันฝรั่งได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอ และไม่จำเป็นต้องให้น้ำบ่อย ไม่ควรให้น้ำมากเกินไปจนแฉะเพราะจะทำให้เกิดโรคในดิน หัวมันฝรั่งเน่าได้ง่ายและทำให้ผิวของหัวไม่สวย และเกิดเป็นรูเล็ก ๆ ทั่วบริเวณผิวของหัวมันฝรั่ง
ควรมีการพรวนดินกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอในระยะแรก เพื่อควบคุมการแข่งขันของวัชพืช ปกติจะทำควบคู่ไปกับการพูนโคนและการให้ปุ๋ย ช่วงนี้พักกันก่อนสักครู่นะครับ
-เพลงคั่นรายการ-
คุณผู้ฟังครับ อายุการเก็บเกี่ยวหัวมันฝรั่งนั้น ขึ้นอยู่กับพันธุ์ อายุการเก็บเกี่ยวของพันธุ์สปุนต้า คือ 100 – 120 วัน พันธุ์เคนนีเบคและพันธุ์แอตแลนติก มีอายุเก็บเกี่ยวใกล้เคียงกับพันธุ์สปุนต้าด้วยครับ
คุณผู้ฟังควรทำการเก็บเกี่ยวหัวมันฝรั่งที่แก่เต็มที่ โดยสังเกตได้จากการที่ลำต้นเริ่มล้มและเอนทาบไปกับดิน ใบจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองประมาณ 10 – 15 เปอร์เซ็นต์ และใบจะเริ่มเหลืองจากด้านล่างขึ้นมา ควรทำการตัดต้นก่อนขุด 7 – 10 วัน เพื่อให้ผิวของหัวมันฝรั่งแข็งแรงไม่ถลอกและสามารถทนทานต่อการเกิดบาดแผลได้ในระหว่างการเก็บเกี่ยว และการขนส่ง อีกประการสำคัญ คือ สามารถเก็บรักษาได้นานกว่ามันฝรั่งที่เก็บเมื่อยังอ่อนอยู่ เวลาขุดควรทำด้วยความระมัดระวัง ถ้าหัวมันฝรั่งเกิดบาดแผล จะทำให้เน่าง่าย เมื่อเก็บรักษาในโรงเก็บ และทำให้หัวดีพลอยเน่าไปด้วยการเก็บมันฝรั่งเข้าโรงเก็บจึงควรคัดเลือกหัวที่เสียหายออก เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วควรนำเข้าที่ร่มในทันทีครับ ไม่ควรปล่อยให้หัวมันฝรั่งถูกแดดเป็นเวลานานเพราะจะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคเน่า ในระยะหลังการเก็บเกี่ยวได้
จุดมุ่งหมายในการเก็บรักษามันฝรั่งก็คือ ทำให้มีการสูญเสียต่ำที่สุด ซึ่งการสูญเสียหลังจากการเก็บเกี่ยวนั้นหมายถึง การสูญเสียทั้งปริมาณและคุณภาพ ซึ่งสาเหตุการสูญเสียได้แก่ การปฏิบัติที่มีผลกระทบแก่หัวมันฝรั่งโดยตรง สาเหตุมาจาก เครื่องมือที่เก็บเกี่ยว การปฏิบัติในระหว่างและหลังการเก็บเกี่ยว เช่น การขนมันฝรั่งเข้าจากแปลงถึงโรงเก็บ การกระทบกระเทือนทางอ้อม เป็นการสูญเสียคุณภาพของหัวมันฝรั่ง เช่น การทิ้งหัวมันฝรั่งไว้กลางแจ้งที่มีแสงแดดจัด ซึ่งทำให้ผิวของมันฝรั่งเป็นสีเขียวและเซลล์ที่หัวตายเน่าได้ง่าย การเก็บมันฝรั่งที่อายุอ่อนเกินไปทำให้อัตราการหายใจของมันฝรั่งสูง เกิดความร้อนในระหว่างการเก็บรักษา ผิวถลอกติดเชื้อโรคได้ง่าย การสูญเสียจากโรคและแมลงศัตรู เช่น การเกิดโรคจากเชื้อรา แบคทีเรียและไวรัส การทำลายของแมลงต่าง ๆ เช่น หนอนผีเสื้อ เสี้ยนดิน หนอนกระทู้
และการป้องกันการสูญเสียในการเก็บหัวมันฝรั่ง นั้นเป็นสิ่งจำเป็น คือ ควรเก็บเกี่ยวมันฝรั่งด้วยความระมัดระวัง เก็บหัวมันฝรั่งที่มีอายุแก่จัดเพราะจะกระทบกระเทือนต่อการเก็บเกี่ยวน้อย เราควรเลือกหัวมันฝรั่งที่ดี แห้งและไม่มีดินติด ไม่เปียกและไม่ถูกแสงแดดในการเก็บเกี่ยว ควรทำการผึ่งหัวมันฝรั่งก่อนนำเข้าโรงเก็บ โดยผึ่งหัวมันฝรั่งในที่ร่มระบายอากาศได้ดีนาน 7 – 15 วัน และควรทำทันทีหลังการเก็บเกี่ยว ควรลดอุณหภูมิในโรงเก็บมันฝรั่ง โรงเก็บรักษาหัวมันฝรั่ง ควรถูกสุขลักษณะปราศจากเชื้อโรค โดยใช้ยาฆ่าเชื้อโรคพ่นในโรงเก็บก่อนนำมันฝรั่งเข้าเก็บ
สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเก็บรักษามันฝรั่ง คือ อุณหภูมิภายในกองมันฝรั่งไม่ควรสูงเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการเน่าในโรงเก็บได้ เนื่องจากหัวมันฝรั่งมีการหายใจเมื่ออุณหภูมิสูง จะทำให้เกิดความร้อนสูงขึ้นดังนั้นควรมีการลดอุณหภูมิในโรงเก็บมันฝรั่ง ถ้าความชื้นในอากาศสูง และอุณหภูมิก็สูงด้วยจะทำให้หัวมันฝรั่งที่เป็นแผลจะหายช้ากว่าปกติ และเป็นเหตุให้เชื้อราหรือแบคทีเรียเข้าทำลายหัวมันฝรั่งได้ง่าย เน่าเสียหายได้เร็ว เมื่อหัวมันฝรั่งถูกแสง จะทำให้หัวมันฝรั่งสร้างคลอโรฟิลล์และผิวจะเป็นสีเขียวทำให้คุณภาพของหัวมันฝรั่งต่ำลง และเป็นพิษต่อผู้บริโภคด้วย หลักการในการปรับปรุงสภาพในโรงเก็บมันฝรั่ง คือ ใช้อากาศเย็นจากภายนอกเข้ามาทำให้อุณหภูมิภายในโรงเก็บต่ำลง รักษาอุณหภูมิภายนอกและภายในกองมันฝรั่งให้เท่ากันโดยเก็บเป็นชั้นบาง ๆ หลีกเลี่ยงไม่ให้หัวมันฝรั่งถูกแสงแดดโดยตรง โรงเก็บควรมีการถ่ายเทอากาศดี และพยายามให้แสงสว่างกระจายสม่ำเสมอ ก็จะทำให้หัวมันฝรั่งมีคุณภาพดี
คุณผู้ฟังเวลาสำหรับรายการ “ จากแฟ้มงานวิจัย มก. “ ในวันนี้ได้หมดเวลาลงแล้ว พบกับรายการนี้ได้ใหม่ ทางสถานีวิทยุ มก. แห่งนี้ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ
………………………………………………………………………………