รายการวิทยุ เรื่อง “ถั่วเหลืองพืชที่น่าสนใจ”
บทวิทยุ รายการ “ จากแฟ้มงานวิจัย มก.”
ออกอากาศวันเสาร์ ที่ 5 เดือน เมษายน พ.ศ. 2557
เรื่อง ถั่วเหลืองพืชที่น่าสนใจ
บทวิทยุโดย วิทวัส ยุทธโกศา
……………………………………………………………….…………………………
-เพลงประจำรายการ-
สวัสดีครับ คุณผู้ฟังทุกม่านครับ พบกับรายการ “ จากแฟ้มงานวิจัย มก. ” ทางวิทยุ มก. แห่งนี้เป็นประจำทุกวันเสาร์ รายการนี้ผลิตโดย ฝ่ายเผยแพร่งานวิจัย สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมีกระผม วิทวัส ยุทธโกศา เป็นผู้ดำเนินรายการครับ และสำหรับวันนี้กระผมขอเสนอ เรื่อง “ ถั่วเหลืองพืชที่น่าสนใจ”คุณผู้ฟังครับถั่วเหลืองเป็นพืชเศรษฐกิจตระกูลถั่วที่สำคัญของประเทศไทย โดยใช้บริโภคภายในประเทศ ในรูปของอุตสาหกรรมน้ำมันพืช อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองรวมทั้งบริโภคโดยตรง โดยการแปรรูปเป็นอาหาร เช่น เต้าหู้ เต้าเจี้ยว ประเทศไทยต้องการใช้ถั่วเหลืองสำหรับการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารต่าง ๆ แต่ในปัจจุบันการผลิตถั่วเหลืองยังไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคในประเทศ และถั่วเหลืองนี้มีแหล่งปลูกที่สำคัญ ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย เลย เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร ตาก พิษณุโลก และขอนแก่น
คุณผู้ฟังครับโดยทั่วไปถั่วเหลืองเติบโตในดินเกือบทุกชนิดตั้งแต่ดินร่วนปนทรายจนถึงดินเหนียว แต่เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วน ดินร่วนปนทรายและดินร่วนปนดินเหนียว ดินที่มีความเป็นกรดและด่าง ระหว่าง 6.0 – 7.0 มีแร่ธาตุอาหารปานกลางและไม่ขาดธาตุรองที่จำเป็น เช่น เหล็ก แมงกานิส โคบอล ซัลเฟอร์ โบรอน สังกะสี และโมลิบดินัม อย่างไรก็ตามถั่วเหลืองไม่ทนต่อสภาพดินเค็มหรือดินกรดจัดมากนัก ถั่วเหลืองสามารถงอกได้ระหว่างอุณหภูมิ 5 ถึง 40 องศาเซลเซียส แต่ที่อุณหภูมิประมาณ 30 องศาเซลเซียส ถั่วเหลืองจะงอกได้เร็วที่สุดประมาณ 3 – 5 วัน ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส การงอกของเมล็ดจะช้าลงอย่างมาก ประมาณ 8 – 10 วันครับ ในช่วงระยะการเจริญเติบโต อุณหภูมิที่เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตที่สุดนั่นได้แก่ 30 องศาเซลเซียส ถั่วเหลืองจะหยุดการเจริญเติบโต ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียสและถ้าอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียสจะทำให้เกิดการแคระแกรน และมีผลเสียกับการออกดอกติดฝัก ผลเสียที่เกิดจากอุณหภูมิสูงจะยิ่งร้ายแรงถ้าเกิดการขาดน้ำด้วย โดยธรรมชาติ ถั่วเหลืองจัดเป็นพืชวันสั้นและพันธุ์ที่ปลูกเป็นการค้าส่วนใหญ่จะตอบสนองต่อช่วงแสง โดยต้องการช่วงแสงสั้นเพื่อการออกดอก ดังนั้น ถ้ามีการนำพันธุ์ที่ปรับตัวได้ดีในเขตใกล้เส้นศูนย์สูตร ไปปลูกในเขตที่ห่างเส้นศูนย์สูตรจะออกดอกช้ากว่าปกติ และถ้านำพันธุ์ที่ปรับตัวได้ดีในเขตที่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรไปปลูกในเขตใกล้ศูนย์สูตรก็จะทำให้การออกดอกเร็วขึ้น คุณผู้ฟังครับ อย่างไรก็ตาม การตอบสนองต่อช่วงแสง ในแต่ละพันธุ์จะแตกต่างกัน ซึ่งเป็นลักษณะประจำพันธุ์และมีผลโดยตรงต่อระยะเวลาการออกดอก การสะสมน้ำหนักแห้งของเมล็ดและผลผลิต สำหรับพันธุ์ที่ส่งเสริมในประเทศไทยจะไม่มีอิทธิพลของแสงมากนัก เพราะได้คัดเลือกให้เหมาะกับสภาพการปลูกได้ตลอดทั้งปี
ถั่วเหลืองต้องการปริมาณน้ำฝนประมาณ 300 – 400 มิลลิเมตร ตลอดฤดูปลูกแต่ต้องมีการกระจายตัวดีโดยเฉพาะในช่วงระยะการงอก ออกดอกและติดฝักและสะสมน้ำหนักแห้งของเมล็ดจะต้องไม่ขาดน้ำ โดยทั่วไปถั่วเหลืองทนต่อสภาพน้ำขังในระยะสั้น ๆ ได้ดีกว่าพืชไร่ชนิดอื่น ๆ แต่การเจริญเติบโตและผลผลิตอาจจะลดลง ในช่วงการเก็บเกี่ยวไม่ควรมีฝนตก เพราะจะทำให้ฝักและเมล็ดเน่าหรือเกิดเชื้อรา ดังนั้น ควรเลือกพันธุ์ที่เริ่มสุกแก่ในช่วง 2 – 3 สัปดาห์ หลังจากหมดฝนแต่ไม่ควรเกิน 4 สัปดาห์ เพราะอาจขาดน้ำในช่วงสะสมน้ำหนักแห้งในเมล็ดซึ่งอาจทำให้เมล็ดลีบและผลผลิตต่ำได้ครับ ช่วงนี้พักกันก่อนสักครู่นะครับ
-เพลงคั่นรายการ-
คุณผู้ฟังครับ ปัจุบันการปลูกถั่วเหลืองมีทั้งการเตรียมดิน และไม่เตรียมดินในฤดูฝน การเตรียมดินควรมีการไถพรวนให้ลึกประมาณ 15 – 20 เซนติเมตร ทำการตากดินไว้ 1 – 2 สัปดาห์ เพื่อให้แสงแดดเผาทำลายวัชพืชและศัตรูพืชหลังจากนั้นจึงพรวนให้ดินร่วนซุย 1 – 2 ครั้ง สำหรับการปลูกในช่วงฤดูแล้งในดินนาที่มีการระบายน้ำไม่ดี หรือในพื้นที่ที่จำเป็นต้องมีการให้น้ำ ควรยกร่องปลูกหรือทำร่องระบายน้ำโดยรอบ สำหรับการปลูกโดยไม่เตรียมดินสามารถกระทำได้ โดยจะเป็นการรักษาสภาพโครงสร้างของดินไม่ให้ถูกทำลาย และรักษาปริมาณความชื้นในดิน แต่จะมีปัญหาเรื่องวัชพืชบ้าง
ในการปลูกถั่วเหลืองควรทำการคลุกไรโซเบียมทุกครั้ง ถึงแม้จะเป็นพื้นที่ที่เคยปลูกถั่วเหลืองมาก่อน เพราะปริมาณเชื้อที่อยู่รอดในสภาพธรรมชาติอาจมีไม่เพียงพอ ไรโซเบียมที่ใช้จะต้องเป็นชนิดที่แนะนำให้ใช้กับถั่วเหลือง ไรโซเบียมจะช่วยตรึงไนโตเจนจากอากาศมาไว้ที่ปมราก ซึ่งถั่วเหลืองจะให้พลังงานและธาตุคาร์บอนแก่ไรโซเบียม ในขณะที่ไรโซเบียมจะให้สารประกอบไนโตรเจนแก่ถั่วเหลือง เป็นการอาศัยอยู่ร่วมกันแบบให้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตามปริมาณไนโตรเจนที่จะตรึงได้จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ชนิดของเชื้อไรโซเบียม ชนิดพันธุ์และอายุของพืช นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้วควรคำนึงถึงวิธีที่จะทำให้ไรโซเบียมที่คลุกเมล็ดถั่วเหลือง มีความสามารถตรึงไนโตเจนได้สูงขึ้นด้วย โดยจะต้องดำเนินการเป็นขั้นตอนดังนี้ คือ เตรียมน้ำเชื่อมเจือจางโดยใช้น้ำตาลทราย ประมาณ 5 ช้อนแกง ผสมน้ำให้น้ำตาลละลายได้น้ำเชื่อม ประมาณ 300 มิลิลิตร เทน้ำเชื่อมลงเคล้าเมล็ดถั่วเหลืองได้ 15 กิโลกรัม ถ้าใช้เมล็ดน้อยให้ลดน้ำเชื่อมลงตามส่วน เคล้าเบา ๆ ให้น้ำเชื่อมเคลือบผิวเมล็ด เทผงไรโซเบียมลงบนเมล็ดในอัตราไรโซเบียม 1 ถุง คลุกถั่วเหลืองได้ 10 – 15 กิโลกรัม แล้วคลุกเคล้าเบา ๆ ให้ทั่ว ผงไรโซเบียมจะเคลือบติดเมล็ดแล้วตากลมไว้ประมาณ 15 นาที ผงไรโซเบียมจะแห้งยึดติดกับเมล็ดไม่หลุดร่วงง่าย เมล็ดพันธุ์ที่คลุกไรโซเบียมแล้วสามารถนำไปปลูกอย่างได้ผลดีมากไม่ว่าจะหยอดด้วยมือ หรือด้วยเครื่องหยอด ถั่วเหลืองจะได้รับไรโซเบียมที่มีประสิทธิภาพสูงเข้าสร้างปมรากทำให้ผลิตปุ๋ยไนโตรเจนได้มาก และเป็นปุ๋ยไนโตรเจนที่วัชพืชไม่สามารถแย่งไปใช้ได้ครับ ช่วงนี้พักกันก่อนสักครู่นะครับ
-เพลงคั่นรายการ-
คุณผู้ฟังครับ การปลูกและระยะการปลูกถั่วเหลืองสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วิธี ตามฤดูปลูก คือ ฤดูฝน หลังเตรียมดินแล้ว การปลูกได้แก่ หว่านหรือเปิดร่องแล้วโรยเป็นแถว หรือหยอดเป็นหลุม แต่วิธีที่ได้ผลดีคือการปลูกเป็นแถวครับ ใช้ระยะระหว่างแถว 50 เซนติเมตร ระยะระหว่างหลุม 20 เซนติเมตร หลุมละ 4 – 5 ต้น หรือการโรยเป็นแถวให้มีจำนวน 20 ต้นต่อแถวยาว 1 เมตร จะมีจำนวนต้นประมาณ 64,000 ต้นต่อไร่ การปลูกถั่วเหลืองในฤดูแล้งหรือหลังการทำนา ถ้ามีการไถพรวนดิน ควรปฏิบัติการปลูกเช่นเดียวกับการปลูกในฤดูฝน แต่ถ้าไม่มีการไถพรวนดินควรเริ่มต้นด้วยการตัดตอซังข้าว แล้วขุดร่องเพื่อใช้เป็นร่องให้น้ำและร่องระบายน้ำโดยไม่มีการไถพรวน การขุดร่องระบายน้ำดังกล่าวทำให้เกิดเป็นแปลงปลูกถั่วเหลืองกว้างประมาณ 3 – 4 เมตร มีร่องน้ำเป็นเขตแบ่งแปลง สร้างความชื้นในดินโดยให้น้ำเข้าท่วมแปลงประมาณครึ่งวันจึงระบายน้ำออกแล้วตากดินนาน 1 – 2 วัน ให้หน้าดินไม่แฉะ แล้วหยอดเมล็ดถั่วเหลืองที่คลุกไรโซเบียมแล้วหลุมละ 4 – 5 เมล็ด ห่างกันหลุมละประมาณ 25 – 30 เซนติเมตร จะทำให้ได้ต้นถั่วเหลืองเจริญเติบโตประมาณไร่ละ 70,000 – 100,000 ต้น หลังหยอดเมล็ดเสร็จแล้ว ถ้าจะใส่ปุ๋ยควรใส่ในช่วงนี้ เสร็จแล้วใช้ฟางที่ได้จากการนวดข้าวมาเกลี่ยคลุมพื้นดินอย่างสม่ำเสมอบนพื้นที่ปลูกถั่วเหลือง ในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีปริมาณอินทรีย์วัตถุสูง ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ปุ๋ยแต่หากเป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ปานกลางหรือต่ำ ควรมีการใส่ปุ๋ย โดยเฉพาะปุ๋ยฟอสฟอรัสมีความต้องการมากที่สุด รองลงมาคือปุ๋ยโปตัสเซียม สำหรับปุ๋ยไนโตเจนในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำก็ควรมีการใส่ด้วย เพื่อช่วยทำให้ถั่วเหลืองสามารถตั้งตัวได้ในระยะแรก แต่หลังจากงอกประมาณ 3 สัปดาห์ ไรโซเบียมที่ไปเกะอาศัยที่รากถั่วจะเริ่มกิจกรรมการตรึงไนโตรเจนจากบรรยากาศมาใช้ ปุ๋ยไนโตรเจนก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป ดังนั้นการใส่ปุ๋ยจึงต้องคำนึงถึงปริมาณธาตุอาหารที่มีอยู่ในดินเป็นหลักแต่โดยทั่ว ๆ ไป ในดินที่ปลูกถั่วเหลืองในฤดูฝนมักจะมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำจึงนิยมใส่ปุ๋ยสูตร 12 – 24 – 12 ประมาณ 20 – 30 กิโลกรัมต่อไร่ ช่วงนี้พักกันก่อนยสักครู่นะครับ
-เพลงคั่นรายการ-
คุณผู้ฟังครับ ถั่วเหลืองมีโรคที่สำคัญได้แก่ โรคราสนิม โรคแอนแทรคโนส โรคใบจุดนูน โรคราน้ำค้าง โรคใบด่าง และแมลงศัตรูที่สำคัญ ได้แก่ หนอนแมลงวันเจาะลำต้น หนอนเจาะฝักถั่วเหลือง หนอนม้วนใบ หนอนเจาะสมอฝ้ายและเพลี้ยอ่อน ถ้าถั่วเหลืองเริ่มสุกแก่ในช่วงที่มีสภาพอากาศแห้งจะเป็นช่วงที่เหมาะที่สุด เมล็ดที่ได้จะมีคุณภาพสูงเพราะเมล็ดไม่เน่าเสียหาย อันเนื่องมาจากเชื้อรา อายุการสุกแก่ของถั่วเหลืองแต่ละพันธุ์จะแตกต่างกัน ดังนั้นควรเก็บเกี่ยวทันทีเมื่อใบร่วงและฝักแก่เปลี่ยนสี 95 % ของจำนวนฝักทั้งหมดเมื่อเก็บเกี่ยวแล้ววางเรียงเป็นแถว มัดเป็นฟ่อนตากไว้ในแปลง ถ้ามีฝนตกอาจนำเข้ามาเก็บไว้ในโรงเรือนยกพื้น มีการถ่ายเทอากาศดี แล้วนำออกตากแดดจนแห้งพอดีขณะที่ความชื้นของเมล็ดประมาณ 14 % นวดด้วยเครื่องนวดถั่วเหลือง นำเมล็ดไปลดความชื้นด้วยการตากแดดและคอยหมั่นกลับเพื่อให้เมล็ดแห้งโดยสม่ำเสมอทั่วถึงกัน หรือลดความชื้นด้วยการอบไอร้อน อุณหภูมิไม่เกิน 40 องศาเซลเซียส นกระทั่งความชื้นของเมล็ดลดลงเหลือประมาณ 12 % เมล็ดที่จะเก็บไว้ใช้ขยายพันธุ์นั้น เมื่อเก็บเกี่ยวและนวดตามวิธีข้างต้นอย่างถูกต้องแล้ว ให้ลดความชื้นของเมล็ดลงอีกให้เหลือประมาณ 8 % แล้วคัดเมล็ดเสีย เช่น เมล็ดเขียว เมล็ดย่น เมล็ดเป็นโรค ออกทิ้งให้หมด ตรวจสอบการงอกของเมล็ด ซึ่งควรสูงกว่า 85 % จากนั้นนำมาบรรจุในภาชนะปิดสนิท ไม่ให้ความชื้นจากอากาศภายนอกเข้ามาได้ วางภาชนะในที่แห้งและเย็น ถ้าปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างถูกต้องแล้วก็สามารถจะเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกในฤดูต่อไปได้
-เพลงคั่นรายการ-
คุณผู้ฟังครับเนื่องจากถั่วเหลือง เป็นพืชที่มีโปรตีนสูง และสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้มีการนำถั่วเหลืองมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนสูงจากถั่วเหลือง หลายชนิดด้วยกันคือ นมถั่วเหลือง เป็นนมถั่วเหลืองที่ผลิตขึ้นโดยใช้อัตราส่วนถั่วเหลืองต่อน้ำ เท่ากับ 1 ต่อ 5 โดยน้ำหนัก ได้มีการปรับปรุงคุณค่าทางโภชนาการให้เท่าเทียมกับปริมาณโปรตีนและไขมัน ของน้ำนมวัวหรือน้ำนมมารดา โดยมีปริมาณโปรตีนและไขมันร้อยละ 4.3 และ 6.0 ตามลำดับ เวลารับประทานให้เติมน้ำเย็นที่ต้มสุกหรือน้ำร้อนต่อนมถั่วเหลืองเข้มข้นในอัตราส่วนเท่ากับ 1 ต่อ 1 อาหารเสริมเด็กอ่อนเกษตร เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป ทำจากแป้งถั่วเหลืองชนิดไขมันเต็ม แป้งข้าวเจ้า และน้ำตาลทราย เป็นส่วนประกอบเสริมวิตามิน และเกลือแร่ แล้วผ่านกระบวนการอัดพอง อบแห้ง และบดเป็นผง ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีปริมาณโปรตีนและไขมันร้อยละ 11.0 และ 3.0 ตามลำดับ ก่อนบริโภคให้เติมน้ำร้อนลงไป 3 เท่า แล้วกวนให้เข้ากัน มีคุณค่าทางโภชนาการเท่าเทียมกับนมผง ราคาถูกกว่านมผงและอาหารเสริม จากท้องตลาดประมาณ 3 – 9 เท่า ดังนั้น อาหารเสริมเด็กอ่อนเกษตร จึงเหมาะที่จะใช้เป็นอาหารเสริมสำหรับเด็กที่มีอายุ 3 เดือนขึ้นไป โดยใช้ทดแทนนมผงและอาหารเสริมต่าง ๆ ที่มีราคาแพงได้เป็นอย่างดี โปรตีนเกษตร เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทดแทนเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ในการประกอบอาหารได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีราคาถูกกว่าเนื้อสัตว์ประมาณ 3 เท่า ทำจากแป้งถั่วเหลืองพร่องไขมัน เสริมด้วยแอลเมทไธโอนินร้อยละ 1 แล้วผ่านขบวนการอัดพอง และอบแห้ง ผลิตภัณฑ์ที่ได้ มีปริมาณโปรตีนและไขมันร้อยละ 49.7 และ 0.3 ตามลำดับ มีคุณค่าทางโภชนาการเท่าเทียมกับเนื้อสัตว์ ก่อนการบริโภคให้นำมาแช่น้ำเย็นหรือน้ำร้อน ประมาณ 5 นาที หรือจนกระทั่งนิ่มหลังจากนั้นก็นำเอาไปประกอบอาหารทดแทนเนื้อสัตว์ได้ทันที ประชาชนให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์นี้มาก โดนมีสถิติในการจำหน่ายเพิ่มขึ้นทุกปี โปรตีนเกษตร นอกจากจะทำจากแป้งถั่วเหลืองพร่องไขมัน ดังกล่าวแล้วยังสามารถทำได้จากแป้งถั่วเหลืองชนิดไขมันเต็ม เสริมด้วยแอลเมทไธโอนินร้อยละ 1 และผ่านเครื่องวิลเลจเทคเจอร์ไรเซอร์ แล้วอบแห้ง ได้โปรตีนเกษตรมีลักษณะเป็นแผ่นกลม พอง ฟู มีสีเหลืองนวล ก่อนบริโภคนำไปแช่น้ำจนกระทั่งนิ่ม ซึ่งถ้าเป็นน้ำร้อนใช้เวลาประมาณ 2 นาที และ 5 นาที สำหรับน้ำเย็น นำมาหั่นเป็นชิ้น ๆ หรือเป็นเส้น เพื่อประกอบเป็นอาหารต่าง ๆ แทนเนื้อสัตว์ มีคุณค่าทางโภชนาการเท่าเทียมกับเนื้อสัตว์ โปรตีนเกษตร ที่ได้มีปริมาณโปรตีนร้อยละ 47.4 ไขมันร้อยละ 17.9 และความชื้นร้อยละ 5.2 นอกจากนี้แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์อีกมาก เช่น ขนมผิงเกษตร หรือคุกกี้เกษตร , บะหมี่เกษตร หรือบะหมี่โปรตีน , กรอบ กรอบ เกษตร หรือ อาหารขบเคี้ยวโปรตีนสูง ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ส่วนมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากพืชผลทางการเกษตรอีกมาก ถ้าท่านผู้ฟังสนใจสามารถหาซื้อได้ที่ห้องขายของสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเวลาสำหรับรายการ “ จากแฟ้มงานวิจัย มก. ” ในวันนี้ก็หมดเวลาลงแล้ว พบกับรายการนี้ได้ใหม่ในสัปดาห์หน้า ทางสถานีวิทยุ มก. แห่งนี้ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ